บทที่ 4 ลุงภาคิน

ทิ้งคำพูดนั้นไว้ ชาลส์ทำราวกับว่ากำลังโยนผ้าขี้ริ้วที่น่ารังเกียจทิ้งไป เขาไม่แม้แต่จะชายตามองพิมพ์รวีสักนิด ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

ร่างสูงตระหง่านของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรง

เสียงดังสนั่นที่เกิดขึ้นทำให้คนที่อยู่ตรงทางเดินด้านนอกตกใจเป็นอย่างมาก

ทุกคนเงียบกริบ จ้องมองใบหน้าที่ดำคล้ำด้วยความโกรธจัดของเขา ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง

อินทิรามองผ่านประตูห้องจัดเลี้ยงที่กำลังปิดลงโดยอัตโนมัติ เธอเห็นพิมพ์รวีในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเอนตัวพิงอยู่บนโต๊ะ และกัดริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างแรงในทันที

ความคิดอันน่ากลัวที่ว่า “ชาลส์แตะต้องพิมพ์รวีแล้ว” วนเวียนอยู่ในหัวของอินทิรา เธอไม่คิดอะไรอีก รีบหันหลังวิ่งตามชาลส์ไปทันที

ภายในห้องจัดเลี้ยง พิมพ์รวีพยายามฝืนร่างกายลุกขึ้นจากโต๊ะ

เมื่อครู่นี้เอวของเธอแทบจะถูกชาลส์กดจนหักอยู่แล้ว

พิมพ์รวีมองไปที่ประตูที่ปิดสนิท ในที่สุดก็ทนไม่ไหว สบถออกมาอย่างแรง

“ชาลส์ ไอ้สารเลวเอ๊ย!”

เธอแสร้งทำตัวเป็นภรรยาที่ดีและแม่ที่ประเสริฐเพื่อเขามาตลอดสามปี แต่วินาทีนี้ จอมมารตัวป่วนที่เคยวิ่งเล่นซุกซนไปทั่วทุกที่ในต่างจังหวัดได้ทะลายผนึกออกมาแล้ว

เป็นเรื่องจริงที่ในตอนนั้นเธอแต่งงานกับเขาเพื่อใช้ตระกูลพูนประสิทธิ์ในการกอบกู้ตระกูลศรีวัฒนา

แต่การที่เธอรักเขาก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน

ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ยอมลำบากตัวเอง ทำงานหนักเยี่ยงทาสในตระกูลพูนประสิทธิ์ตลอดสามปีนั้นหรอก

แต่ตอนนี้ พออินทิรากลับมาถึงประเทศ เขาก็กลับไปพัวพันกับหล่อนอีกครั้ง ไม่ไว้หน้าเธอซึ่งเป็นนายหญิงของบ้านต่อหน้าทุกคน

ได้! ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องไว้หน้ากันอีกต่อไป!

มาสิ มาทำร้ายกันให้เจ็บปวดไปเลย! ไม่ต้องมีใครรอดทั้งนั้น!

พิมพ์รวีเดินกะเผลกออกมาจากโรงแรม เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ เมื่อลมกลางคืนที่หนาวเย็นพัดผ่าน ความน้อยเนื้อต่ำใจก็ทำเอาน้ำตาแทบจะไหลริน

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาน้าชายคนเล็กของเธอ เพื่อให้เขามารับ

รถเบนท์ลีย์สีดำรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นมาถึงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับดริฟต์อย่างสวยงามหนึ่งครั้งก่อนจะจอดลงตรงหน้าพิมพ์รวี

ภาคินลงจากรถแล้วเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร “เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอมาอยู่ตรงนี้คนเดียว? แล้วชาลส์ล่ะ?”

“คุณน้า...” พอเห็นหน้าภาคิน ขอบตาของพิมพ์รวีก็แดงก่ำขึ้นมาทันที ภาคินเห็นท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจของเธอก็รู้ได้ในทันทีว่าต้องเป็นไอ้ชาติชั่วชาลส์นั่นรังแกเธออีกแล้วแน่ๆ

เขาก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้าทันที “บอกน้ามา ไอ้สารเลวนั่นมันรังแกอะไรเธออีก? เดี๋ยวน้าจะไปจัดการให้!”

ตอนที่พิมพ์รวีดึงดันจะแต่งงานกับชาลส์ ทั้งครอบครัวของพวกเขาก็ไม่มีใครเห็นด้วยเลยสักคน

ไอ้สารเลวชาลส์นั่น ทั้งๆ ที่มีสัญญาหมั้นหมายอยู่กับพิมพ์รวีของพวกเขา แต่กลับไปพัวพันคลุมเครือกับลูกนอกสมรสของตระกูลกาญจน์

ผู้ชายเลวๆ ที่ไม่รักดีแบบนี้ ไม่คู่ควรกับเจ้าหญิงน้อยของบ้านเขาเลย

ถึงแม้ศักดิ์ของเธอจะต่ำกว่าภาคินหนึ่งขั้น แต่จริงๆ แล้วอายุของทั้งสองคนก็ใกล้เคียงกัน ภาคินแก่กว่าพิมพ์รวีเพียงไม่กี่ปี

ดังนั้นตั้งแต่เด็ก พิมพ์รวีจึงชอบอ้อนภาคินเป็นพิเศษ

พอได้ยินว่าภาคินจะช่วยเธอระบายความโกรธ อารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดในใจก็พรั่งพรูออกมา เธอเผลอกอดแขนเขา ซบศีรษะลงบนไหล่แล้วถูไถเบาๆ

“คุณน้าคะ หนูอยากหย่ากับชาลส์ คุณน้าช่วยหาทนายเก่งๆ ให้หนูหน่อยได้ไหมคะ”

แม้ว่าภาคินจะไม่ได้สืบทอดธุรกิจของตระกูลศรีวัฒนา แต่เขาก็สร้างชื่อเสียงในแวดวงการเงินของวอลล์สตรีท จนโด่งดังในฐานะลิขิตรักเงินตรา

เขาเปิดบริษัทการเงินของตัวเอง และมีทีมทนายความที่เก่งกาจที่สุดของประเทศเอ็มอยู่ในสังกัด

ว่ากันว่าหัวหน้าทีมของเขาไม่เคยว่าความแพ้คดีเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ความคิดในใจของหลานสาว มีหรือที่คนเป็นน้าอย่างเขาจะไม่รู้

พอเห็นเธอเจ็บปวดจนถึงขั้นต้องการหย่า เขาก็รู้ได้ทันทีว่าชาลส์ต้องทำเรื่องที่เลวร้ายจนเธอไม่อาจให้อภัยได้ลง

แววตาของเขาฉายแววเย็นเยียบ แต่บนใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจ เขาขยี้หัวของเธอเบาๆ อย่างนึกโมโหที่เธอไม่รักตัวเอง

“ตอนนั้นน้าก็บอกเธอแล้วว่าชาลส์ไม่เหมาะกับเธอ อย่าไปลำบากตัวเองเลย แต่เธอก็ไม่ฟัง ตอนนี้พอเจ็บตัวขึ้นมา รู้สึกตัวแล้วใช่ไหม?”

หางตาทรงเสน่ห์ของพิมพ์รวีแดงก่ำ คลอไปด้วยน้ำตา “เจ็บจะตายอยู่แล้วค่ะ!” เธอหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอาศีรษะถูไถกับฝ่ามือของเขา “อ้อ คุณน้าคะ เรื่องนี้คุณน้าอย่าเพิ่งบอกน้าคนอื่นๆ กับคุณตานะคะ หนูไม่อยากให้พวกเขาโกรธจนพลั้งมือไปฆ่าไอ้ชาติชั่วนั่น”

ไม่ใช่ว่าเสียดายชีวิตมัน แต่เธอแค่ไม่อยากให้น้าๆ และคุณตาต้องมาเดือดร้อนเพราะคนเลวๆ คนหนึ่ง

หรือถ้าจะให้ยืมคำพูดของเขามาพูดก็คือ เขาไม่คู่ควร!

ภาคินพยักหน้า “น้าคนอื่นๆ ของเธอตอนนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศ คุณตาของเธอก็สุขภาพไม่ค่อยดีจริงๆ ถ้าท่านรู้เข้าอาจจะโกรธจนล้มป่วยได้ ไม่ให้พวกเขารู้ก็ดีเหมือนกัน มีน้าอยู่ทั้งคน จะไม่ยอมให้เธอต้องน้อยใจเด็ดขาด แต่ว่า...”

พิมพ์รวีรู้ว่าน้าชายของเธอต้องการจะพูดอะไร “ไม่ต้องห่วงค่ะ ความปรารถนาของคุณตา หนูจะหาทางทำให้สำเร็จให้ได้แน่นอน ผู้ชายดีๆ ในโลกนี้มีตั้งเยอะแยะ ไม่ใช่ว่าต้องเป็นชาลส์คนเดียวสักหน่อย”

อาจเป็นเพราะอายุที่มากขึ้น คุณตาจึงยิ่งให้ความสำคัญกับการสืบทอดสายเลือด โดยเฉพาะสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวที่ลูกสาวคนเดียวของท่านทิ้งเอาไว้!

ตอนที่สุนารีเสียชีวิตจากอาการป่วย ยังไม่ทันจะครบเจ็ดวัน วิชญ์ก็พานังเมียน้อยกับลูกนอกสมรสเข้าบ้านแล้ว

ตอนนั้นพิมพ์รวียังเด็กและใจร้อน จึงตกหลุมพรางที่สองแม่ลูกวางไว้ได้ง่ายๆ จนเกือบจะถูกวิชญ์ไล่ออกจากบ้าน

เป็นตระกูลศรีวัฒนาที่ทราบข่าวแล้วไปรับพิมพ์รวีกลับมา

ตอนนั้นคุณปู่สมศักดิ์ได้วางมือจากทุกอย่างแล้ว และพาครอบครัวไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษที่ต่างจังหวัด ไม่มีใครรู้เลยว่าคุณปู่สมศักดิ์เคยเป็นราชาการพนันผู้โด่งดังในอดีต

ต่อมาเมื่อศัตรูของคุณปู่สมศักดิ์ตามมาถึงบ้าน ตระกูลศรีวัฒนาจึงได้รับความเสียหายอย่างหนัก เพื่อปกป้องน้าชายของเธอ เพื่อสร้างความรำคาญใจให้อินทิรากับแม่ที่เป็นเมียน้อย และเพื่อทำความฝันในวัยสาวของตัวเองให้เป็นจริง พิมพ์รวีจึงนำสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลพูนประสิทธิ์ไปหาชาลส์ และบังคับให้เขาแต่งงานกับเธออย่างเด็ดเดี่ยว

เดิมทีเธอคิดว่าด้วยความฉลาดหลักแหลมของตัวเอง ต่อให้ตอนแรกชาลส์จะไม่รักเธอ เธอก็จะสามารถประคับประคองชีวิตคู่ให้ดีได้ เพื่อไม่ให้คุณตาต้องเป็นห่วง

แต่ผลลัพธ์ในตอนนี้ กลับกลายเป็นว่าต้องมาถึงจุดที่ต้องหย่าร้างกัน!

ที่ก่อนหน้านี้เธอพยายามยั่วยวนชาลส์อย่างหนักเพื่อที่จะมีลูกสักคน จริงๆ แล้วเหตุผลส่วนใหญ่ก็เพราะเธอไม่ต้องการให้คุณตาต้องจากไปพร้อมกับความเสียใจ

“อย่าทำอะไรแผลงๆ นะ!” เมื่อได้ยินคำพูดที่สุ่มเสี่ยงของเธอ ภาคินก็อดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของเธอเบาๆ

พิมพ์รวีกุมศีรษะ “ไม่ต้องห่วงค่ะคุณน้า หนูเป็นใครกันคะ ต่อให้รีบมีลูก หนูก็ไม่ทำให้ตัวเองต้องลำบากหรอกค่ะ”

หลานสาวของเขาเป็นคนมีความคิดเป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เมื่อภาคินเห็นว่าเธอตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ก็ไม่ได้พูดเกลี้ยกล่อมอะไรอีก ทำเพียงขับรถพาเธอจากไป

พิมพ์รวีนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ก้มหน้าส่งข้อความ: 【ช่วยหาผู้ชายให้ฉันคนหนึ่ง ด่วนที่สุด ต้องสูงกว่าชาลส์ หล่อกว่าเขา ไอคิวก็ต้องสูงกว่าเขา สรุปคือทุกอย่างต้องดีกว่าเขา!】

ในไม่ช้า อีกฝ่ายก็ส่งข้อความตอบกลับมา: 【ในที่สุดพี่พิมพ์ก็ยอมออกจากถ้ำแล้วเหรอ? วางใจได้เลย ปัญหาเล็กน้อย รับรองว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จ!】

ชาลส์กลับมาถึงบ้านตระกูลพูนประสิทธิ์ในตอนเย็นของวันรุ่งขึ้น

หลังจากงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคุณปู่ภรัณยู ตามธรรมเนียมแล้วตระกูลพูนประสิทธิ์จะมีการจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ภายในครอบครัว

พอเขาก้าวเท้าเข้าประตูบ้านได้ไม่ทันไร ก็ถูกไม้เท้าของคุณปู่ภรัณยูฟาดเข้าให้

“แกยังมีหน้ากลับมาอีกเหรอ? ดูเรื่องดีๆ ที่แกทำไวสิ พิมพ์ถูกแกทำจนโกรธหนีไปแล้ว แกยังจะกลับมาทำไมอีก?!”

เมื่อได้ยินว่าพิมพ์รวีไม่ได้กลับมา สีหน้าของชาลส์ก็เย็นชาลงทันที เขากุมแขนข้างที่ถูกตีพลางกวาดตามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบคนที่เขากำลังมองหา

สีหน้าของเขาพลันเรียบเฉยไร้ความรู้สึก แม้แต่น้ำเสียงก็เย็นชาลงไปด้วย

“เธอไม่อยู่ แล้วเธอไปไหน?”

คุณปู่ภรัณยูโกรธจนหอบ “แกยังกล้าถามอีกเหรอ เมียตัวเองหายไปไหนยังไม่รู้ เป็นสามีประสาอะไรกัน?!”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป